สแตนเลส 304 และ สแตเลส 201 ( Food grade ) “สแตนเลสสตีล” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “เหล็กกล้าไร้สนิม” คือ โลหะผสมระหว่างเหล็ก คาร์บอน โครเมียม และสารประกอบอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติทนการกัดกร่อนสูง ซึ่งปกติจะมีสารโครเมียมในปริมาณอย่างน้อย 10% ขึ้นไป และมีปริมาณคาร์บอนไม่เกิน 2% โดยโครเมียมจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับเนื้อเหล็ก เกิดเป็นสารเคลือบผิวที่ป้องกันไม่ให้เกิดสนิมขึ้นได้ อีกทั้งด้วยปริมาณคาร์บอนที่ค่อนข้างน้อย ทำให้สแตนเลสมีความเหนียวมากกว่าความแข็ง จึงเหมาะกับงานผลิตที่ต้องการน้ำหนักเบา หรือขึ้นเป็นรูปทรงต่าง ๆ
สแตนเลสเกรด 304 (SUS 304)
หรือที่นิยมเรียกกันว่า สแตนเลส 18/8 อยู่ในกลุ่มของสแตนเลส Austenitic มีส่วนประกอบของโครเมียม 18% และนิกเกิล 8% อีกทั้งยังมีคาร์บอนต่ำและไม่มีสารโมลิบดินัม ทำให้มีความเหนียวและขึ้นรูปได้ดี ทนต่อการกัดกร่อน ทำความสะอาดง่าย สามารถป้องกันแบคทีเรียไม่ให้เข้ามาเกาะหรืออาศัยอยู่บริเวณพื้นผิว และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะสามารถรีไซเคิลได้ 100% ( Food grade )
ลักษณะการใช้งานสแตนเลสเกรด 304
นิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในหลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น การผลิตอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยอย่างบานพับ ลูกบิดประตู, อุตสาหกรรมครัวเรือน เช่น ซิงก์ล้างจาน เครื่องครัว รวมถึงในอุตสาหกรรมไฟฟ้าเช่น ตู้ไฟสวิทช์บอร์ด กล่องพักสาย รางเดินสายไฟ เป็นต้น
ลักษณะการใช้งานสแตนเลสเกรด 201
เป็นเกรดสแตนเลสที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยใช้แมงกานีส (Mn) แทนส่วนหนึ่งของนิกเกิล (Ni) ที่ใช้ในสแตนเลสเกรด 304. สแตนเลส 201 จึงมีราคาถูกกว่าและมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับสแตนเลส 304 ในแง่ของการขึ้นรูปได้ดีและทนทานต่อการกัดกร่อน. อย่างไรก็ตาม สแตนเลส 201 มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิมน้อยกว่าสแตนเลส 304.